วันพฤหัสบดีที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2556

Cisco เผยผลการศึกษา Gen Y ทั่วโลกเช็คสมาร์ทโฟนก่อนลุกจากเตียง

ซิสโก้เผยผลการศึกษา 90 เปอร์เซ็นต์ของคนรุ่น Gen Y ทั่วโลกเช็คสมาร์ทโฟนเพื่อดูข่าวคราวและโซเชียลมีเดีย ก่อนลุกจากเตียง แปรงฟัน เข้าห้องน้ำ และโพสต์ข้อความ กลายเป็นกิจวัตรยามเช้าของคน Gen Y ชี้ต้องการเชื่อมต่อตลอดเวลา ตั้งแต่ทำงาน ช้อปปิ้ง โซเชียลกับเพื่อนฝูงและครอบครัว

เวลา 6 โมงเช้า นาฬิกาปลุกของคุณส่งเสียงดัง คุณลุกขึ้นนั่งอย่างงัวเงีย บิดขี้เกียจ และอ้าปากหาว ถึงเวลาที่คุณจะต้องเตรียมตัวไปโรงเรียนหรือไปทำงาน แล้วคุณจะทำอะไรเป็นลำดับถัดไป? แต่งตัว? อาบน้ำ? แปรงฟัน?

ตามรายงานเทคโนโลยี Connected World ของซิสโก้ (Cisco® Connected World Technology Report - CCWTR) ระบุว่า 90 เปอร์เซ็นต์ของคนรุ่น Gen Y ทั่วโลกที่ตอบแบบสอบถามระบุว่า พวกเขาเช็คสมาร์ทโฟนเพื่อดูข่าวคราวอัพเดตในอีเมล ข้อความ และโซเชียลมีเดีย ก่อนที่จะลุกจากเตียง ขณะที่ประเทศไทยสูงถึง 98 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ ร่างกายของมนุษย์เรามีกระดูกทั้งหมด 206 ชิ้น และสมาร์ทโฟนอาจเปรียบได้กับกระดูกชิ้นที่ 207 สำหรับคนรุ่น Gen Y ผู้ตอบแบบสอบถามสองในห้าคนระบุว่าพวกเขา “รู้สึกกระวนกระวาย เหมือนกับว่ามีอะไรบางอย่างขาดหายไปจากชีวิต” ถ้าไม่ได้ใช้สมาร์ทโฟนเพื่อเชื่อมต่อทุกที่ทุกเวลา InsightExpress ได้ดำเนินการสำรวจความคิดเห็นของนักศึกษาและคนทำงานอายุ 18 ถึง 30 ปี จำนวน 1,800 คนใน 18 ประเทศ โดยมุ่งศึกษาพฤติกรรมของคนรุ่น Gen Y ในการใช้อินเทอร์เน็ตและอุปกรณ์พกพาเพื่อเชื่อมต่อโลก ผลการศึกษานี้เปิดเผยถึงพฤติกรรมและทัศนคติของคนเหล่านี้ในการสร้าง การเข้าถึง และการรักษาความเป็นส่วนตัวจากสมาร์ทโฟน กล้องวิดีโอ มอนิเตอร์ และอุปกรณ์เชื่อมต่ออื่นๆ

อุปกรณ์พกพาเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น ผู้คน กระบวนการ ข้อมูล และสิ่งต่างๆ สามารถเชื่อมต่อกันบน “Internet of Everything” ซึ่งมีข้อมูลที่มีมูลค่ามหาศาลและเพิ่มขึ้นในปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆ


ข้อมูลสำคัญจากรายงาน Connected World ของซิสโก้

กิจวัตรแบบใหม่ยามตื่นนอนตอนเช้า: แปรงฟัน เข้าห้องน้ำ และส่งข้อความคนรุ่น Gen Y ไม่ต้องการพลาดการส่งหรือโพสต์ข้อความ อีเมล์ และอัพเดตโซเชียลมีเดียบนอุปกรณ์พกพาและนั่นคือกิจวัตรเริ่มต้นวันใหม่ก่อนที่จะลุกจากเตียงนอนเสียอีก สำหรับคนรุ่นนี้ ข้อมูลจะต้องเป็นแบบเรียลไทม์ในทุกเวลา
เก้าในสิบคนจะแต่งตัว แปรงฟัน และเช็คสมาร์ทโฟนะหว่างเตรียมตัวไปโรงเรียนหรือไปทำงานในตอนเช้า

สำหรับพนักงาน ถือเป็นกิจกรรมที่มีความหมาย เพราะแสดงให้เห็นว่าบุคลากรในอนาคตจะมีความคล่องตัวมากขึ้น รับรู้ข้อมูลข่าวสารมากขึ้น และตอบสนองอย่างฉับไวมากกว่าคนรุ่นก่อน คนเหล่านี้ใช้ชีวิตในการเชื่อมต่อเพื่อการสื่อสารเป็นหลัก

ฉันและสมาร์ทโฟนของฉัน ตั้งแต่เช้าจนถึงกลางคืน คนรุ่น Gen Y จะเชื่อมต่ออย่างต่อเนื่อง

หนึ่งในสี่คน (29 เปอร์เซ็นต์) กล่าวว่า พวกเขาเช็คสมาร์ทโฟนครั้งแล้วครั้งเล่าจนไม่อาจนับครั้งได้

หนึ่งในห้าคนเช็คสมาร์ทโฟนเพื่อดูอีเมล ข้อความ และอัพเดตโซเชียลมีเดียอย่างน้อยทุก 10 นาที ในสหรัฐฯ สองในห้าคนเช็คสมาร์ทโฟนอย่างน้อยทุก 10 นาที

หนึ่งในสามเช็คสมาร์ทโฟนอย่างน้อยทุก 30 นาที และในสหรัฐฯ ตัวเลขนี้อยู่ที่มากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ของผู้ตอบแบบสอบถาม

เชื่อมต่อหรือเสพย์ติด?

60 เปอร์เซ็นต์ของคนรุ่น Gen Y เช็คอีเมล ข้อความ และอัพเดตโซเชียลมีเดียบนสมาร์ทโฟนเนื่องจากจิตใต้สำนึกหรือแรงจูงใจ

ผู้หญิงมีแรงจูงใจในการเชื่อมต่อมากกว่า โดย 85 เปอร์เซ็นต์ของผู้หญิง เทียบกับ 63 เปอร์เซ็นต์ของผู้ชาย พบว่าตนเองมีแรงจูงใจในการเช็คอีเมล์ ข้อความ และอัพเดตโซเชียลมีเดียบนสมาร์ทโฟน

กว่า 40 เปอร์เซ็นต์ของผู้ตอบแบบสอบถามจะมีอาการ “ลงแดง” และ “รู้สึกกระวนกระวาย” เหมือนกับว่ามีอะไรบางอย่างขาดหายไปจากชีวิต” ถ้าหากไม่สามารถเช็คสมาร์ทโฟนได้อย่างสม่ำเสมอ

ในบรรดาผู้ที่ใช้สมาร์ทโฟนภายใต้แรงจูงใจ พบว่า 60 เปอร์เซ็นต์ไม่อยากที่จะรู้สึกว่าตนเองถูกบังคับเช่นนั้น บุคลากรฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศมีการเชื่อมต่อเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน

เกือบหนึ่งในสามของบุคลากรฝ่ายไอทีระบุว่า ตนเองตรวจเช็คสมาร์ทโฟน “อย่างต่อเนื่อง”

40 เปอร์เซ็นต์ของบุคลากรฝ่ายไอทีกล่าวว่า ตนเองตรวจเช็คสมาร์ทโฟนอย่างน้อยทุก 10 นาที

สมาร์ทโฟนมีอยู่ทุกที่! มีการใช้สมาร์ทโฟนในทุกๆที่ แม้กระทั่งในสถานที่ที่มีความเป็นส่วนตัวมากที่สุด ความต้องการที่จะเชื่อมต่ออย่างต่อเนื่องส่งผลให้เส้นแบ่งระหว่างชีวิตการทำงาน ชีวิตส่วนตัวและครอบครัวเริ่มเลือนหาย ผู้ใช้ตรวจสอบข้อมูลอัพเดตเรื่องงานและติดต่อสื่อสารทุกชั่วโมงจากทุกๆที่ ที่จริงแล้ว เวลาจะมีลักษณะยืดหยุ่น กล่าวคือ สำหรับคนรุ่น Gen Y ไม่มีเส้นแบ่งที่ชัดเจนระหว่าง “วันทำงาน” และ “เวลาส่วนตัว” เพราะช่วงเวลาเหล่านี้จะผสมปนเปและคาบเกี่ยวกันตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน

ยังมีเรื่องโรแมนติกบนเตียงบ้างหรือเปล่า? ผู้ตอบแบบสอบถามทั่วโลก 3 ใน 4 คนใช้สมาร์ทโฟนบนเตียงนอน

อย่าลืมล้างมือ!: กว่าหนึ่งในสามใช้สมาร์ทโฟนในห้องน้ำ

ขอพื้นที่บนโต๊ะอาหาร: เกือบครึ่งหนึ่งของผู้ตอบแบบสอบถามทั่วโลก (46 เปอร์เซ็นต์) ส่งข้อความ อีเมล และโซเชียลมีเดียระหว่างรับประทานอาหารกับครอบครัวและเพื่อนฝูง และมากกว่าครึ่งหนึ่งของผู้ตอบแบบสอบถามในสหรัฐฯ (56 เปอร์เซ็นต์) ใช้สมาร์ทโฟนระหว่างที่รับประทานอาหารกับผู้อื่น

ระวัง! แม้ว่าจะเป็นการกระทำที่เสี่ยงต่ออันตราย แต่เกือบหนึ่งในห้าคนยอมรับว่าตนเองรับส่งข้อความขณะขับรถ

ไม่ใช่เพียงแค่ส่งหรือโพสต์ข้อความแต่เป็นการ “ปฏิวัติของแอพพลิเคชั่น”

เกือบ 70 เปอร์เซ็นต์ของผู้ตอบแบบสอบถามรุ่น Gen Y กล่าวว่า โมบายล์แอพพลิเคชั่นมีความสำคัญต่อชีวิตประจำวัน

มากกว่าครึ่งหนึ่งใช้โมบายล์แอพพลิเคชั่นสำหรับเกมและความบันเทิงเป็นหลัก

อย่างไรก็ดี หนึ่งในสี่ (27 เปอร์เซ็นต์) ใช้โมบายล์แอพพลิเคชั่นสำหรับการทำงานเป็นหลัก

คุณต้องการใช้แอพมากเท่าไร? ผู้ผลิตนำเสนอแอพพลิเคชั่นหลายพันโปรแกรมในแอพสโตร์ แต่แอพเหล่านั้นได้ถูกใช้งานจริงหรือ? ที่จริงแล้วในบรรดาแอพทั้งหมดที่ดาวน์โหลดในแต่ละวัน มีเพียงไม่กี่โปรแกรมเท่านั้นที่ถูกใช้งานอย่างสม่ำเสมอ

ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ (70 เปอร์เซ็นต์) ใช้โปรแกรมบนสมาร์ทโฟนเป็นประจำไม่ถึง 10 โปรแกรม

มีผู้ตอบแบบสอบถามเพียงหนึ่งในสี่ (24 เปอร์เซ็นต์) เท่านั้นที่ใช้ 10 ถึง 25 โปรแกรมอย่างสม่ำเสมอ

มิตรภาพทางออนไลน์ กับมิตรภาพส่วนบุคคล: ชุมชนออนไลน์ไร้ขีดจำกัดทางด้านภูมิศาสตร์และเขตเวลา (ไทม์โซน)?

40 เปอร์เซ็นต์ใช้เวลาในการเชื่อมต่อออนไลน์กับเพื่อนมากกว่าการพบปะสังสรรค์กันเป็นการส่วนตัว

สองในสามของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่าตนเองใช้เวลาเท่ากันหรือมากกว่าในการติดต่อเพื่อนฝูงทางออนไลน์ เมื่อเทียบกับการพบปะพูดคุยกันเป็นการส่วนตัว

ยังมีความแตกต่างระหว่างชาย-หญิง กล่าวคือ ผู้ชายทั่วโลก 38 เปอร์เซ็นต์ใช้เวลาพบเจอเพื่อนเป็นการส่วนตัวมากกว่าทางออนไลน์ ขณะที่สัดส่วนของผู้หญิงที่ใช้เวลาพบเจอเพื่อนเป็นการส่วนตัวมีเพียง 29 เปอร์เซ็นต์

ที่จริงแล้วคุณคือใคร? ภาพลักษณ์ด้านออนไลน์แตกต่างจากความเป็นจริงหรือไม่

การติดต่อพูดคุยทางออนไลน์ช่วยขยายโอกาสในการสร้างตัวตน ภาพลักษณ์ และบุคลิกใหม่ แต่ในอีกแง่หนึ่ง ก็อาจเป็นรากฐานที่นำไปสู่การโกหกหลอกลวง ก็แล้วคุณจะเชื่อสิ่งที่คุณได้พบเห็นทางออนไลน์ได้มากน้อยเพียงใด?

สี่ในห้า (81 เปอร์เซ็นต์) ของผู้ตอบแบบสอบถามเชื่อว่าแต่ละคนมีภาพลักษณ์ออนไลน์และออฟไลน์ที่แตกต่าง

เมื่อถามเกี่ยวกับตัวเอง มีเพียง 44 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่ตอบว่าภาพลักษณ์ออนไลน์ของเขาเหมือนกับภาพลักษณ์ “ออฟไลน์” ในโลกแห่งความเป็นจริง

สมาร์ทโฟนจะแทนที่แลปท็อปในสถานที่ทำงานหรือไม่?

ในหลายๆ ส่วนของโลก สมาร์ทโฟนกำลังเป็นคู่แข่งกับแลปท็อป ในฐานะอุปกรณ์ที่ยังเป็นที่ต้องการมากที่สุดสำหรับผู้ใช้อายุ 18 ถึง 30 ปี เพราะเป็นอุปกรณ์อเนกประสงค์ที่มีขนาดกะทัดรัดมากที่สุด

หากจำเป็นต้องเลือกอุปกรณ์เพียงเครื่องเดียว หนึ่งในสามของผู้ตอบแบบสอบถามตัดสินใจเลือกสมาร์ทโฟน

สมาร์ทโฟนแซงหน้าคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปในฐานะอุปกรณ์ที่เหมาะสำหรับสถานที่ทำงานจากมุมมองของคนทั่วโลก

สมาร์ทโฟนได้รับความนิยมมากกว่าสองเท่าเมื่อเทียบกับเดสก์ท็อปพีซี และได้รับความนิยมมากกว่าแท็บเล็ตถึงสามเท่า

สำหรับคนรุ่นใหม่ที่ “เชื่อมต่อตลอดเวลา” อุปกรณ์พกพาเครื่องเดียวจะรองรับการใช้งานได้อย่างพร้อมสรรพ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ส่วนบุคคลหรืออุปกรณ์ของบริษัท แต่จะก่อให้เกิดปัญหาท้าทายต่อผู้จัดการฝ่ายไอที ซึ่งมีหน้าที่ปกป้องสินทรัพย์และข้อมูลของบริษัท

สองในห้าคนกล่าวว่านโยบายของบริษัทห้ามไม่ให้นำเอาอุปกรณ์ที่บริษัทออกให้ไปใช้ในกิจกรรมที่ไม่เกี่ยวกับงาน ขณะที่เกือบสามในสี่ (71 เปอร์เซ็นต์) ยอมรับว่าตนเองไม่ได้ปฏิบัติตามนโยบายดังกล่าว

สองในสาม (66 เปอร์เซ็นต์) รู้สึกว่า “นายจ้างไม่ควรตรวจสอบติดตามกิจกรรมออนไลน์ของพนักงาน เพราะไม่ใช่ธุระอะไรของนายจ้าง”

บุคลากรฝ่ายไอทีทราบดีว่าพนักงานจำนวนมากไม่ได้ปฏิบัติตามกฎระเบียบ แต่ก็ไม่ทราบว่ามีการละเลยกฎเกณฑ์มากน้อยเพียงใด กล่าวคือ บุคลากรฝ่ายไอทีทั่วโลกกว่าครึ่งหนึ่งคิดว่าพนักงานปฏิบัติตามนโยบายเรื่องการห้ามนำเอาอุปกรณ์ของที่ทำงานไปใช้กับเรื่องส่วนตัว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น